วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

แคนตาลูปในกระถาง

แคนตาลูปในกระถาง 



ดิน
        รองพื้นกระถางด้วยใบไม้แห้ง เถาแตงหรือซากวัชพืชย่อยสลายง่ายหลีกเลี่ยงใบมะม่วง (ปลูกกันจนจบยังไม่ผุพัง) เติมด้วยดินผสมปุ๋ยคอก ส่วนผสม 9:1 แล้วเติมใบไม้แห้งตามด้วยดินส่วนผสมดังกล่าวอีกชั้นหนึ่ง โดยให้ได้ปริมาณ 90% ของกระถาง รดน้ำต่อเนื่อง 1 อาทิตย์ สุดท้ายตามด้วยน้ำปูน
            เนื่องจากปูนขาวอาจหาได้ยากสามารถใช้ปูนแดงกินหมากแทนได้โดยใช้ปูนแดงกินหมาก 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ถัง รดให้ชุ่มดิน ปุ๋ยคอกใบไม้หรือเครื่องปลูกทุกชนิดต้องผ่านการตากแดดให้แห้งเสมอ
 

กระถาง
               ที่ใช้อยู่หน้ากว้าง 10 นิ้ว หรือ 11 นิ้ว หรือ 12 นิ้ว สำหรับ 10 นิ้ว รู้สึกได้ว่าเล็กไปหน่อยแต่ก็ได้ผลใหญ่ใกล้เคียงกัน ก้นกระถางต้องหนุนด้วยเบี้ย 3 ตัว รูกระถางจะต้องระบายน้ำและอากาศได้ดี 

การปลูก 
              นำเมล็ดพันธุ์ห่อผ้าชุ่มน้ำพักไว้ 3-4 วัน แก้ดูถ้าเห็นปลายแหลมของเมล็ดแตกและมีรากโผล่มา
 ให้นำเมล็ดไปเรียงในกระถางดินที่เตรียมไว้ให้ห่างกัน 1 ถึง 2 นิ้ว แล้วโรยทับด้วยดินร่วนในกระถางต้องระบายน้ำได้ดี รดน้ำแล้วไม่อุ้มน้ำมาก เมล็ดแตงถ้าฉ่ำน้ำจะเน่าเสียง่ายมาก พอต้นโผล่พ้นดินก็ให้น้ำได้เต็มที่ เมื่อต้นกล้ามีใบจริงใบแรกและเริ่มมีใบที่สอง ก็ย้ายลงกระถางได้เลย ก่อนย้ายกล้าลงกระถางควรให้ต้นกล้าขาดน้ำ พอย้ายลงกระถางแล้ว ให้รดน้ำทันที ต้นกล้าจะดูดน้ำฟื้นตัวไม่เฉา ถ้าต้นกล้าฉ่ำน้ำก่อนย้ายลงกระถางต้นกล้าจะอ่อนแอ
 พอย้ายแล้วมักจะตาย การย้ายกล้าควรย้ายในตอนเย็น 

ระหว่างเติบโต
              หลังจากย้ายต้นกล้าลงกระถางได้ 3-4 วัน ให้ปุ๋ยยูเรีย 1 ช้อนโต๊ะละลายน้ำ 1 ถัง ให้รดตอนเช้าในขณะที่กระถางยังชื้นจากการรดน้ำตอนเย็น หลังจากมีใบจริง 4-5 ใบ แล้วให้ปุ๋ยยูเรียผสมปุ๋ยเร่งดอกผล โดยใช้ปุ๋ยส่วนผสมนี้ 1 ช้อนชาฝังขอบๆกระถาง 2 ข้าง พอติดผลเท่าผลมะนาวแล้วให้ใช้ปุ๋ยยูเรียและปุ๋ยเร่งดอกผลผสมกัน 1:1  จำนวนหนึ่งช้อนชาโรยขอบกระถาง โรยอาหารกระต่ายอัดเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ แล้วโรยปิดบนด้วยดินผสมปุ๋ยคอกเนื่องจากดินในกระถางขาดแร่ธาตุหลายอย่าง และไม่สามารถวิเคราห์ได้ ในอาหารกระต่ายมีส่วนผสมสารอาหารและแร่ธาตุหลายอย่าง และเมื่อรับน้ำแล้วอาหารเม็ดจะฟูพองใหญ่ขึ้นเป็น 10 เท่า เมื่อแยกทดลองดู 2 รอบแล้ว ปรากฏว่าที่ใส่อาหารกระต่ายลูกจะโตกว่ามาก เนื้อหนาไส้ตันทุกลูก ส่วนที่ไม่ใส่อาหารกระต่ายลูกจะเล็กและไส้จะกลวง แต่เนื่องจากอาหารเม็ดนี้ยังไม่ผ่านการย่อยสลายจึงอาจเกิดราสีน้ำตาลที่ผิวดินบ้าง แต่เพียงไม่กี่วันราก็จะสลายไปพร้อมกับผลแตงที่พองโตอย่างรวดเร็วพอผลแตงเริ่มแตกลายให้ใส่ปุ๋ย อาหารกระต่ายและดินผสมปุ๋ยคอกอีกรอบในช่วงนี้ผลแตงจะขยายตัวขึ้นอีกระยะหนึ่ง และน้ำหนักจะเพิ่มเนื้อจะหนาจนเหลือไส้เล็กๆ 

การดูแลผล
          เมื่อต้นมีใบ 5-6 ใบ ก็จะเริ่มมีดอกตัวผู้ ตามด้วยแขนงดอกตัวเมียออกมาตามซอกใบ ให้ไว้ผลตัวเมียระหว่างข้อใบที่ 8-15 สัก 2-3 ผล (ข้อใบนับจากโคนต้นขึ้นมา) ส่วนแขนงอื่นให้ตัดทิ้งให้หมด (ดอกตัวผู้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวด้วย) พอผลโตเท่าลูกมะนาวให้ตัดเหลือผลที่ลักษณะดี ไม่บิดเบี้ยวไว้เพียงผลเดียว (ยกเว้นสายพันธุ์เล็กที่อาจเก็บไว้ได้ 2-3 ผล) ขณะที่ดอกตัวเมียบานและเริ่มติดผล กระทั่งโตเท่าผลส้มในช่วงนี้ต้องคอยระวังอย่าให้ผลไปเบียด เสียดสีกับหลัก ต้น หรือใบ เพราะบางพันธุ์ค่อนข้างจะถือตัว มันจะแป้ว เบี้ยว หรือผิวจะด่างเสียหายได้ เมื่อผลโตกว่าลูกมะนาวแล้ว ต้องใช้เชือกแขวนผลไว้กับค้าง เพราะแต่ละวันมันจะโตและหนักเป็นเท่าตัว ต้นจะรับน้ำหนักผลไม่ไหว ถ้าเป็นแคนตาลูปหลังติดผล 30-35 วัน ส่วนเมล่อน 45-55 วัน (ถ้าฝนตกมากเวลาสุกจะยืดออกไปมากเป็น 10-20 วัน) ได้เวลาลูกจะเปลี่ยนสีหรือขึ้นลายนูนชัดเจนขึ้น ใบจะขรุขระแข็งและกรอบใบหรือขอบใบล่างๆจะแห้งบ้าง จุกของผลจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองจางๆ แคนตาลูปจะได้กลิ่นหอมขั้วจุกอาจปริและหลุดร่วงได้ ส่วนเมล่อนโดยมากจะเก็บกลิ่น (ผ่าแล้วจึงได้กลิ่น) พอถึงระยะนี้แล้วอย่าเพิ่งเก็บผล มิฉะนั้นจะมีบางต้นที่ยังไม่เข้าที่ ให้รดด้วยปุ๋ยเร่งดอกผลหรือโปรแตสเซียมในอัตรา 2 ช้อนโต๊ะต่อถัง ต่อจากนั้นให้น้ำแค่ประคองไม่ให้ต้นเฉาหลังให้ปุ๋ยและลดน้ำ 6-7 วัน วันสุดท้ายไม่ต้องให้น้ำ ตกเย็นใบเฉาให้ตัดผลในตอนเย็น ผึ่งไว้ 3-7 วัน เนื้อจะฉ่ำ  

ข้อควรระวัง
         แตงไม่เหมือนผลไม้อย่าบ่ม ปิด หรืออบในที่อุณหภูมิสูง อุณหภูมิ 4°-28° แตงจะพัฒนาสุกได้ดี แต่ถ้าเก็บในที่ร้อน ไส้แตงจะบูดและเน่าเสียได้ เมื่อฉ่ำได้ที่แล้วสามารถเก็บรักษาในตู้เย็นชั้นล่างได้นาน โดยเฉพาะถ้าห่อกระดาษเช่นกระดาษหนังสือพิมพ์ก็ได้ จะรักษาความชื้นและเก็บได้นาน ห้ามใส่ถุงพลาสติก เพราะจะทำให้ชื้นแฉะและเน่าเร็ว
          
 การให้น้ำ
           ปลูกในกระถางน้ำจะแห้งเร็ว ต้องให้น้ำด้วยฝักบัวเช้าเย็น ตอนเย็นใบจะตกเล็กน้อย พอรดน้ำแล้วจะงามเข้าที่ควรรดน้ำตอนเย็นแค่ชื้นๆ แต่ตอนเช้าต้องให้ฉ่ำทั้งกระถาง ถ้าให้น้ำขาดตอน เช่นตอนเช้าไม่ได้รด ตอนเย็นให้โรยน้ำที่ต้นและใบ ส่วนโคนต้นแค่ชื้นเล็กน้อย ถ้าเห็นว่าแห้งมากแล้วไปให้น้ำเต็มที่จะทำให้ผลปริแตกและเสียไปเลยกระถางใดรดน้ำตอนเช้าพอตอนเย็นแห้งจนเหลือแค่ไอชื้นข้างใน รากจะลงลึกถึงก้นกระถาง ใบจะหนาเขียวเข้ม ผลจะใหญ่สมบูรณ์ ในทางกลับกันกระถางใดรดน้ำตอนเช้าแล้ว ตอนเย็นในกระถางยังฉ่ำอยู่ แสดงว่าเครื่องปลูกไม่โปร่งพอ รากลงได้แค่ครึ่งกระถางใบจะซีดบาง ผลไม่โต บางต้นรากส่งน้ำไม่พอก็เฉาตายทั้งๆที่ไม่ขาดน้ำ 

เพิ่มเติม
             ระยะที่แตงเริ่มติดผล ให้ตัดใบล่างๆออก 4-5 ใบ ใบล่างๆนี้จะเกะกะ เสียหายง่ายและเน่าโรยเร็ว ใบไม่มีขั้วใบให้หลุดได้ พอต้นแก่ใบล่างจะหักโรยเน่าได้ง่าย ต้นแก่แผลเน่าจากก้านใบมีปัญหา บางครั้งเน่าลามเข้าไปในต้นได้พอต้นสูงยาวจนอยู่ตัวแล้ว ให้ตัดยอดทิ้ง โดยนับใบให้เหลือ 18-20 ใบ (ถ้าปลูกในโดม รับแสงน้อย คายน้ำน้อย แนะนำให้เหลือ 22-25 ใบ)บางครั้งถ้าขาดดินสำรอง ถ้าซื้อดินถุงมาต้องตากให้แห้งก่อนเติม เคยฝนตกมากดินพร่องไปมาก ซื้อดินมาเติมทันที ปรากฏว่าหนึ่งอาทิตย์ให้หลัง จำนวนเกือบครึ่งที่เติมดิน รากติดเชื้อ ต้นและใบเหลืองเฉา ลูกที่ใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวต้องทิ้งหมดช่วงที่ดอกตัวเมียเริ่มบาน ถ้ามีผึ้งมาตอมมากจะผสมเกสรได้ดี แต่ถ้าไม่มีแมลงเลย ต้องนำดอกตัวผู้มาฉีกกระเปาะโคนกลีบดอกจะเห็นกลุ่มเกสรสีเหลือง ให้นำดอกตัวผู้ละเลงที่เกสรตัวเมียขณะที่ดอกตัวเมียกำลังบาน อาจมีนกกระจอกยกพวกมาจิกฉีกกลีบดอกออก แล้วจิกกินแค่ยอดเกสรตัวเมีย ถ้ามันเริ่มมาแล้วจะมาทุกวันจนไม่มีดอกตัวเมียที่สมบูรณ์เหลืออยู่ และไม่สามารถมานั่งเฝ้าและไล่มันทั้งวันได้ ให้สังเกตในตอนเย็นว่าดอกตัวเมียใดกลีบดอกเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองแล้ว วันรุ่งขึ้นดอกนั้นจะบาน ให้นำแผ่นถุงพลาสติกที่ตัดได้ขนาด 3 นิ้ว คูณ 3 นิ้ว มาจับจีบแม็กล้อมดอกไว้ให้ปลายเป็นปากแตร พอตอนเช้าดอกบานและผสมเกสรแล้ว ตอนเย็นหรือวันรุ่งขึ้นก็เอาที่ล้อมไว้ออกได้ ดอกบานข้ามวันมันจะไม่จิกกินยังมีการเพิ่มปุ๋ยน้ำชีวภาพจากเศษพืชผัก-ผลไม้ แต่ใช้น้อยมาก ผสมน้ำจางๆ 4-5 วัน รดครั้งหนึ่ง ทั้งหมดดังกล่าวคือขั้นตอนที่ทำได้ผลพอดีพอควร เกิดจากการลองผิดลองถูกจนได้ข้อมูลดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากไม่มีพื้นฐานทางการเกษตร และอาจผิดหลักทางวิชาการ ควรต้องแก้ไขปรับปรุงอีกมาก ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจากสวนแตงท่าพระคำถามหรือคำแนะนำ
 

  





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น